Shirakawa Go
ชิราคาวาโกะ หมายถึง บริเวณทั้งหมดที่ยังหลงเหลือบ้านเรือนแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น ซึ่งเรียกว่าบ้านทรงกัสโชสึคุริ ซึ่งตั้งอยู่ในหมู่บ้านชิราคาว่า จังหวัดกิฟุ
โดยมีเอกลักษณ์อยู่ที่ทัศนียภาพบ้านเรือนหลังคาแบบคายาบุกิสีน้ำตาล ที่เรียงรายกันหลายสิบหลัง ชิราคาวาโกว ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมของยูเนสโกเมื่อปี1995
บ้านทรงกัสโชสึคุริ เป็นหนึ่งในรูปแบบสถาปัตยกรรมเก่าแก่ของญี่ปุ่น
โดยมีเอกลักษณ์คือรูปร่างที่เหมือนกับการประสานมือหรือพนมมือจากการนําหลังคาแบบคายาบุกิมาต่อกันนั่นเอง การส้างหลังคาให้มีความลาดชันอย่างมาก เพื่อให้หิมะที่ตกลงมา ทับถมลงบนพื้นด้างล่างอย่างธรรมชาติ เพราะที่หมู่บ้านนี้มีหิมะตกหนักทุกปี
คายาบุกิ คือวิธีการมุงหลังคาโดยใช้หญ้า เช่น หญ้าแพมพัส หลังคาแบบคายาบุกิเป็นหลังคาแบบดั้งเดิมที่สืบทอดกันมาตั้งแต่อดีต เป็นการมุงหลังคาที่ไม่ต้องใช้ตะปูเลยสักตัวเดียว ว่ากันว่าจะมีการมุงหญ้าทับ 30-40 ปีต่อครั้ง
บ้านทรงกัสโชสึคุริที่นี่ ในปัจจุบันยังคงเป็นที่พักที่มีผู้คนพักอาศัยอยู่จริง และแปลงเป็นห้องจัดแสดงผลงาน ความเป็นอยู่ในอดีตให้ผู้คนมาเยี่ยมชมจนถึงทุกวันนี้
ที่ Shirakawa Go เราจะเข้าชมบ้านโบราณที่แปลงเป็น attractions เพียงหนึ่งหลัง คือ Wada House – ส่วนบ้านอื่นๆที่เหลือก็จะละม้ายคล้ายๆกัน
Wada House บ้านวาดะ เป็นบ้านที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาบ้านในชิราคาวาโกะทั้งหมดและเป็นบ้านทรงคุณค่าถึงขนาดได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมที่สําคัญของประเทศ เลยทีเดียว ถึงแม้ว่าบ้านหลังนี้จะสร้างขึ้นมากว่า 300 ปีแล้ว แต่ในปัจจุบันก็ยังคงหลงเหลือสภาพในอดีตที่ไม่ เปลี่ยนแปลงไปเลย ปัจจุบันบ้านหลังนี้ยังคงมีผู้คนอาศัยอยู่เหมือนในอดีต โดยที่ชั้น 1 และชั้น 2 เปิดให้เยี่ยมชม เราจึงสามารถชมเครื่องเรือนและโบราณวัตถุที่ใช้กันมาหลายชั่วอายุที่บ้านวาดะนี้แบบใกล้ชิดได้เลย / ค่าเข้าชม 300/150yen
Nagase House เป็นบ้านที่สร้างแยกออกมาจากบ้านวาดะ โดยแรกเริ่มได้สร้างบ้านคันดะเป็นโรงผลิตเหล้า สันนิษฐานว่าเริ่มสร้างในช่วงปี1850 แต่แบบแปลนบ้านมีการพัฒนาก้าวหน้ากว่าบ้านหลังอื่นๆ บ้าน หลังนี้มีห้าชั้น บ้านหลังคาทรง gassho สูงห้าชั้น เคยเป็นบ้านครอบครัวที่สืบทอดอาชีพแพทย์ ติดต่อกันสามรุ่น มีอุปกรณ์การแพทย์สมัย Edo จึงเป็นบ้านที่มีความสมบูรณ์แบบสูงมากในบรรดาบ้านทรงพนมมือทั้งหมด บ้านหลังนี้มีห้าชั้น - จากชั้นบนๆมองลอดหน้าต่างออกมา จะเห็นวิวภายนอกสวยงามมาก และการที่ยังคงเหลือบ้านทรงพนมมือมากมายอย่างนี้ ทําให้เรายังได้เห็นสิ่งก่อสร้างทางประวัติศาสตร์ของญี่ปู่นและวิถีชีวิตในสมัยนั้น และยังมีร้านค้าที่สร้างเป็นทรงพนมมือให้เราได้ซื้อของ ฝากเฉพาะถิ่นที่หาซื้อได้จากที่นี่เท่านั้น และยังได้ลิ้มลองอาหารท้องถิ่นอีกด้วย / ค่าเข้าชม 300/150 yen
สําคัญ (It's a must) – เป็นธรรมเนียมปฎิบัติของคนญี่ป่น คือ เข้าบ้านใครจะต้องถอดรองเท้าเสมอ - ใส่ ถุงเท้า OK
เราเตรียมถุงพลาสติกใส ไปไส่หิ้วรองเท้าเวลสเข้าชม บ้านต่างๆนะคะ
มีร้านขายของที่ระลึกอยู่หลายร้าน – พาเจ้าทรัพย์ไปเลือกซื้อเพลินเลยละ
แนะนำให้ไปช่วงเช้านะคะ เพราะคนจะน้อยถ่ายรูปจะสวยกว่าค่ะ พอสายๆ นักท่องเที่ยวเริ่มมากันเยอะ ค่ะ เดินเที่ยวกันเพลินก็เริ่มหิวแล้ว เราก็ไปทานร้านอาหารแถวๆหมู่บ้าน นั่นคือ ร้านทงคัตสึ - Shirakawa Go อร่อยมากค่ะ แนะนำค่ะ ทานข้าวเสร็จเราก็จะพาเจ้าทรัพย์ไปขึ้น Shinhotaka Ropeway กันค่ะ (ดูรีวิว)
